การตลาดฐานข้อมูล (Database Marketing) PDF พิมพ์ อีเมล
เขียนโดย สาระดีดี.คอม   
วันอังคารที่ 28 มีนาคม 2023 เวลา 18:10 น.
--------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------

 

การตลาดฐานข้อมูล (Database Marketing)

 

บทความโดย : สาระดีดี.คอม/  WWW.SARA-DD.COM

 

 

 

ความเป็นมาของการตลาดฐานข้อมูล

การตลาดฐานข้อมูล หรือ Database Marketing เกิดขึ้นจากความต้องการในการใช้ข้อมูลลูกค้าในการวางแผนการตลาด โดยเริ่มต้นในยุค 1960 โดยมีการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าและวิเคราะห์ในการตลาด ในยุค 1980 การสะสมข้อมูลลูกค้าเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากการสะสมข้อมูลสามารถนำไปใช้ในการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทำให้มีการสะสมข้อมูลลูกค้าได้อย่างมหาศาลและ Database Marketing เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการตลาดออนไลน์และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในยุคปัจจุบัน

 

ความหมายของการตลาดฐานข้อมูล

Database Marketing หมายถึงการใช้ฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อวิเคราะห์และวางแผนการตลาดให้เหมาะสมกับลูกค้า โดยการนำข้อมูลที่ได้รวบรวมมาจากการซื้อขายหรือการติดต่อกับลูกค้าเดิม มาวิเคราะห์และจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนการตลาดให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคงได้ โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลและการสร้างโมเดลการพยากรณ์เพื่อใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ตลาดต่อไป

 

ความสำคัญของ Database Marketing

การทำ Database Marketing มีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่ในฐานข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อจัดทำกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Database Marketing ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำการตลาดให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย โดยวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าแต่ละราย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า นอกจากนี้ การนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำการตลาดโดยเน้นลูกค้าเก่า ที่สามารถสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจได้มากกว่าการเน้นไปที่ลูกค้าใหม่ โดยสร้างความผูกพันและความไว้วางใจจากลูกค้าเดิมเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการให้กับลูกค้าดังกล่าวในอนาคตอีกด้วย

 

ประโยชน์ของ Database Marketing

การทำ Database Marketing มีประโยชน์มากมายต่อธุรกิจ ดังนี้

  1. ช่วยลดความขัดแย้งในการตลาด: ด้วยการเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ในฐานข้อมูล จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าแต่ละราย โดยไม่ต้องทำการตลาดแบบทั่วไปที่อาจเสียเวลาและงบประมาณได้
  2. ช่วยเพิ่มยอดขาย: โดยการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่เหมาะสมและเป็นไปตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้
  3. ช่วยลดต้นทุนการตลาด: โดยการนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด จะช่วยลดต้นทุนการตลาดให้กับธุรกิจ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากเพื่อทำการตลาด
  4. ช่วยสร้างความผูกพันกับลูกค้า: การนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์และพัฒนากลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสม จะช่วยสร้างความผูกพันและความไว้วางใจจากลูกค้า เพื่อให้มีโอกาสที่จะกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการใหม่อีกครั้ง
  5. ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน: การใช้ Database Marketing ด้วยการวิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมและตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุด ช่วยลดต้นทุนการตลาด และสร้างความผูกพันกับลูกค้าเพิ่มขึ้น
  6. ช่วยวิเคราะห์ธุรกิจได้ตรงจุด : Database Marketing ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์แนวโน้มและพฤติกรรมลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมการตัดสินใจในการลงทุนในการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  7. ช่วยปรับปรุงการบริหารจัดการลูกค้า : Database Marketing ช่วยปรับปรุงการบริหารจัดการลูกค้าได้โดยตรง โดยการรวบรวมข้อมูลลูกค้าและวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เพื่อเข้าใจความต้องการและความสนใจของลูกค้า เพื่อให้สามารถปรับแผนกลยุทธ์การตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มพลังในการจัดการกับลูกค้า ทำให้การติดต่อและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  8. ช่วยสร้างสัมพันธภาพกับลูกค้า : Database Marketing ช่วยสร้างความสัมพันธ์และสัมพันธภาพที่ดีกับลูกค้าได้โดยตรง โดยการใช้ข้อมูลลูกค้าในการวิเคราะห์และปรับแผนกลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารกับลูกค้า
  9. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด : Database Marketing ช่วยให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการใช้ข้อมูลลูกค้าในการวิเคราะห์และสร้างกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมต่อกลุ่มลูกค้า และเพิ่มความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการสื่อสารที่ตรงกับความต้องการของพวกเขา นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าหรือบริการ
  10. ช่วยลดความเสี่ยงในการตลาด : Database Marketing ช่วยลดความเสี่ยงในการตลาดโดยการเพิ่มความเข้าใจลูกค้าและการวิเคราะห์ข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อปรับแผนการตลาดให้เหมาะสมต่อกลุ่มลูกค้า
  11. ช่วยสร้างกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ : Database Marketing ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและพฤติกรรมการซื้อ เพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับตลาดและลูกค้า โดยลดความเสี่ยงในการลงทุนในกลยุทธ์ที่ผิดพลาด
  12. ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและพฤติกรรมลูกค้า : Database Marketing ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและพฤติกรรมลูกค้าได้อย่างแม่นยำ จากข้อมูลที่เก็บไว้ ช่วยให้สามารถปรับกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
  13. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการแคมเปญโฆษณา : การใช้ Database Marketing ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้า และนำข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนาแคมเปญโฆษณาใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายและส่งข้อความโฆษณาให้ถูกเวลาและถูกต้อง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และวางแผนการตลาดให้เหมาะสมกับแนวโน้มตลาดและพฤติกรรมของลูกค้าด้วย
  14. ช่วยในการตัดสินใจในการลงทุนในการตลาด : Database Marketing ช่วยในการวิเคราะห์และประเมินผลการลงทุนในการตลาด ทำให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการตลาดที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
  15. ช่วยในการวางแผนธุรกิจในระยะยาว : Database Marketing ช่วยในการวางแผนธุรกิจในระยะยาวโดยให้ข้อมูลที่ต้องการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการตลาดเพื่อเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ยังช่วยติดตามและปรับปรุงผลการดำเนินธุรกิจให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าด้วย

 

กระบวนการทำ Database Marketing

การตลาดฐานข้อมูลสามารถดำเนินการตามลำดับกระบวนการได้ดังนี้

  1. การเก็บข้อมูลลูกค้า: การเก็บข้อมูลลูกค้าจะช่วยให้ผู้ติดต่อสามารถระบุและแยกประเภทลูกค้าได้ตามความต้องการของธุรกิจ
  2. การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า: การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจะช่วยให้ธุรกิจสามารถรู้จักลูกค้าของตนและทำการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าได้
  3. การจัดการข้อมูลลูกค้า: การจัดการข้อมูลลูกค้าจะช่วยให้ธุรกิจสามารถติดต่อลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. การสร้างกลยุทธ์การตลาด: การใช้ข้อมูลลูกค้าจะช่วยให้ธุรกิจสร้างกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ
  5. การวางแผนการตลาด: การใช้ข้อมูลลูกค้าจะช่วยให้ธุรกิจวางแผนการตลาดให้เหมาะสมกับลูกค้า
  6. การติดต่อลูกค้า: การใช้ข้อมูลลูกค้าจะช่วยให้ธุรกิจติดต่อลูกค้าให้ได้ตามความต้องการและความต้องการของลูกค้า
  7. การวิเคราะห์ผลตอบรับของลูกค้า: การวิเคราะห์ผลตอบรับของลูกค้าจะช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดและวางแผนการตลาดให้เหมาะสมกับลูกค้า
  8. การวิเคราะห์ ROI: การวัดผลตอบแทนการลงทุนของแคมเปญเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดในอนาคต
  9. การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM): การจัดการข้อมูลและปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว
  10. การทำซ้ำและการปรับปรุง: การปรับปรุงกระบวนการและกลยุทธ์ตลาดอย่างต่อเนื่องโดยใช้ข้อมูลและความคืบหน้าที่ได้รับจากแคมเปญแต่ละครั้งเป็นแนวทางในการพัฒนาต่อไป

สามารถสรุปกระบวนการ Database Marketing ได้ว่าเป็นการใช้ฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อวิเคราะห์และสร้างกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อลูกค้า และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีการประมวลผลข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจทางธุรกิจ เช่น การสร้างโปรโมชั่นพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเดียวกัน การติดตามลูกค้าที่มีศักยภาพในการเป็นลูกค้าประจำ และการวิเคราะห์การตลาดในอดีตเพื่อวางแผนการตลาดในอนาคต ด้วยระบบฐานข้อมูลที่เข้าถึงได้ง่าย การติดต่อลูกค้าก็จะสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

 

แนวโน้มการใช้งาน Database Marketing ในปี 2023

จากแนวโน้มของการใช้งานในปัจจุบัน สามารถคาดเดาได้ว่า Database Marketing จะมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในการตลาดออนไลน์และการจัดการลูกค้าในอนาคต โดยเฉพาะในการนำข้อมูลลูกค้ามาใช้ในการวิเคราะห์และจัดการลูกค้าให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบ AI ที่ใช้ในการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลลูกค้าเพื่อช่วยลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ Database Marketing ในอนาคต


การใช้งาน Database Marketing คาดว่าจะยังคงเป็นแนวโน้มที่สำคัญและเติบโตต่อไปในปี 2023 โดยเฉพาะในช่วงยุคดิจิทัลและการตลาดออนไลน์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ระบบ Database Marketing จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละช่วงเวลาได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การใช้งานเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าอย่างถูกต้องและรวดเร็วจะเป็นแนวโน้มที่มีความสำคัญในปี 2023 นี้ด้วย

 

................................

 

 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 28 มีนาคม 2023 เวลา 18:34 น.
 
ทุนการศึกษา United World Colleges (UWC)

ทุนการศึกษา United World Colleges (UWC)

องค์การสหสากลวิทยาลัย United World Colleges (UWC) ประสงค์จะมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยเพื่อเข้าศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตร International Baccalaureate เป็นเวลา 2 ปี ณ วิทยาลัยในเครือขององค์การฯ จำนวน 10 ทุน

 

ประเทศที่ให้ทุน

  • สาธารณรัฐประชาชนจีน
  • อิตาลี
  • อาร์มีเนีย
  • สาธารณรัฐคอสตาริกา
  • เขตบรหิารพเิศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน
  • นอร์เวย์
  • สิงคโปร์
  • สหราชอาณาจักร

การรับสมัคร

  • รับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2558 ถึง 20 มกราคม 2559

 

>>>>>>>>>>  อ่านข้อมูลเพิ่่มเติม

 
เทคนิคเบื้องต้นเพื่อเพิ่มคะแนน TOEFL
เทคนิคเบื้องต้นเพื่อเพิ่มคะแนน TOEFL

เรียบเรียงโดย : สาระดีดี.คอม

 

          การทำคะแนนสอบ TOEFL ให้อยู่ในระดับสูงสามารถทำได้โดยผู้เตรียมสอบต้องเริ่มเตรียมพร้อมโดยการวางแผนการเตรียมสอบที่มีประสิทธิภาพ  ซึ่งจะช่วยให้ผู้สอบทำคะแนนได้ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่สอบ  มีเคล็ดลับ 4 ข้อสำหรับเพิ่มคะแนนสอบ TOEFL ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อผู้เตรียมสอบ  ดังนี้

           1.  เลือกเครื่องมือเตรียมสอบที่ดีและเหมาะสม

          หากผู้เตรียมตัวสอบไม่คุ้นเคยกับการสอบ TOEFL  มาก่อน   สิ่งสำคัญสำหรับผู้เริ่มต้นคือการสร้างความคุ้นเคยกับแบบทดสอบ ตัวข้อสอบและโครงสร้างข้อสอบ   วิธีที่ดีที่สุดและเป็นวิธีง่ายๆ คือการทำแบบฝึกหัด    โดยในขั้นต้นผู้เตรียมตัวอสบควรตั้งใจอย่างเต็มที่ในการคัดหาหนังสือดีๆ สักเล่ม หรือเครื่องมือแนะนำการสอบ TOEFL ที่เหมาะสม   โดยสามารถเลือกเป็นหนังสือแนะนำ  ซีดี  เทป หรือไฟล์เสียง    บางครั้งผู้เตรียมตัวสอบอาจลังเลใจจากการโฆษณาต่างๆ หรือหน้าปกที่สวยงามของคู่มือ   ดังนั้นจึงควรหาข้อมูลหนังสือที่มีชื่อเสียงและเล่มที่มีผู้แนะนำให้ผู้ที่เตรียมตัวสอบอ่านมาแล้วหลายๆ รุ่นของการสอบ    ต่อมาให้ใช้เวลาทบทวนเกี่ยวกับกระบวนการที่จะช่วยให้ผู้เตรียมสอบจดจำข้อมูลต่างๆ ได้ดีขึ้น   ตัวอย่าง หากคุณรู้สึกไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือขณะอยู่บนรถโดยสารหรือรถไฟฟ้า  ให้คุณลองเปลี่ยนไปใช้เทป ซีดี หรือไฟล์เสียงที่สามารถฟังในขณะกำลังเดินทางเพื่อให้สามารถจดจำเทคนิคการทำข้อสอบได้ดียิ่งขึ้น

          2.  การตัดสินใจสมัครเรียนเพื่อเตรียมสอบ

          การสมัครเรียนเพื่อเตรียมสอบ TOEFL เป็นการเตรียมตัวสอบที่จะได้ผลดีกว่าอ่านหนังสือคู่มือ การอ่านเทคนิคต่างๆ  การทำแบบฝึกหัด และเรียนรู้จากเครื่องมือต่างๆ ด้วยตนเอง   สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับจากการลงเรียนในหลักสูตรเตรียมตัวสอบ TOEFL   คือ ประสิทธิภาพของการเรียนการสอน ความรู้ และโอกาสที่จะได้คะแนนสอบที่สูงขึ้น   เนื่องจากผู้เรียนจะมีโอกาสได้สอบถามข้อสงสัยหรือตั้งคำถามในเรื่องที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้นกับผู้สอน    อย่างไรก็ตามก่อนที่จะลงมือสมัครเรียนกับสถาบันกวดวิชา  ให้ผู้เรียนตรวจสอบให้มั่นใจว่าผู้สอนมีความรอบรู้เกี่ยวกับการสอบ TOEFL เป็นอย่างดี  และผู้สอนสามารถอธิบายและสอนสิ่งที่ยากๆ ให้คุณสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น    คุณอาจขอสถาบันที่สนใจเข้าชมการเรียนการสอนก่อนที่จะตัดสินใจสมัครเรียนจริง

          3.  เรียนรู้เทคนิคเพื่อลดเวลาการทำข้อสอบ

          ในการสอบ TOEFL ผู้สอบจะได้พบกับคำถามที่มีตัวเลือกคล้ายกันบ่อยๆ อาทิ

          A) to destroy
          B) destroying
          C) destroyed
          D) was destroyed

          เมื่อผู้สอบพบกับคำถามลักษณะนี้  ให้จำไว้ว่า 90% ของคำถามจากตัวเลือกข้างต้นคำตอบน่าจะเป็นข้อ B หรือ ข้อ C    ทั้งนี้โดยทั่วไปข้อสอบ TOEFL จะมีลักษณะของแบบทดสอบวัดactive voice (-ing form) และ passive voice (-ed form)  เมื่อคุณพบคำตอบที่มีทั้ง -ed และ -ing อยู่ในคำถามข้อเดียวกันในตัวเลือก   คำถามข้อนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าตัวเลือกจะอยู่ 1 ในสองตัวเลือกดังกล่าว  ซึ่งนี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายเทคนิคที่คุณจะได้เรียนรู้เมื่อได้ลงเรียนหลักสูตรเตรียมสอบ TOEFL หรือจากการทำแบบทดสอบอย่างเข้มข้น

          4.  ถามตัวเองว่าการเรียบเรียงประโยคสอดคล้องดีไหม

          ผู้เตรียมตัวสอบ TOEFL  ส่วนใหญ่มีความสามารถในการคิดประโยคคำพูดเป็นภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างถูกต้องยกเว้นตอนต้องออกเสียง   ในทางเดียวกัน  นั่นหมายความว่าเราจะสามารถสนทนาในใจได้ดีหากเราสามารถออกเสียงได้ถูกต้อง   และความคิดภายในใจจะสะท้อนออกมาเป็นเสียงจริงได้หากไม่ยึดติดหลักของไวยกรณ์ (grammar rules)   หรืออีกนัยหนึ่งคือเราสามารถพูดประโยคภาษาอังกฤษได้ถูกต้องได้ง่ายๆ ด้วยการคิดและพูดออกมาดังๆ   ดังนั้นการฝึกอ่านอ่านออกเสียงจึงเป็นการฝึกฝนให้ผู้เตรียมสอบได้คุ้นเคยกับรูปประโยคได้ค่อนข้างดีวิธีหนึ่ง

          ความจริงในเรื่องนี้จะทำให้คุณสามารถจัดการกับความสับสนเมื่อเจอกับข้อสอบ TOEFL    ในการทำข้อสอบที่ต้องพิจารณาใช้คำในตัวเลือกเข้าแทนที่คำภายในประโยคให้ลองอ่านดูว่าเมื่อเติมคำลงไปแล้วประโยคเหมาะสมดีหรือไม่   หากลองอ่านออกเสียงแล้วเสียงที่อ่านทั้งประโยคไม่ติดขัด ก็มีความเป็นไปได้ว่าคำตอบดังกล่าวเป็นตัวเลือกและคำตอบที่ถูกต้อง   

          เทคนิคง่ายๆ เหล่านี้ สามารถช่วยให้คุณเพิ่มคะแนน TOEFL ได้ไม่มากกน้อย   ขอให้จำไว้ว่าการหมั่นฝึกฝน  ทบทวน และทำแบบทดสอบสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มคะแนนสอบให้สูงขึ้นได้

 

จำนวนผู้เยี่ยมชม

mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterวันนี้689
mod_vvisit_counterเมื่อวานนี้781
mod_vvisit_counterเดือนนี้19036
mod_vvisit_counterผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด6780295

Who's Online

เรามี 16 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

ความคิดเห็น

ท่านใช้งานส่วนใดของสาระดีดี.คอม มากที่สุด