--------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------

 

 

มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge) : อังกฤษ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
 

          มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge) ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1209 เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่เป็นอันดับสองของสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ในเมืองเคมบริดจ์ อังกฤษ ได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลก เป็นมหาวิทยาลัยลัยที่มีผู้ได้รางวัลโนเบลสูงที่สุด ในบรรดามหาวิทยาลัยทั้งหลายในโลก กล่าวคือ 81 รางวัล

 

  

Kings_College_Cambridge_Great_Court_Panorama-03.jpg - 32.19 Kb

Kings College Cambridge Great Court Panorama

  

ประวัติ

          ในปี ค.ศ. 1209 ผู้ก่อตั้งเป็นกลุ่มคณาจารย์และนักศึกษาที่ย้ายมาจาก มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ตำนานกล่าวว่าเดิมทีนักศึกษาและครูอาจารย์ในอ๊อกซฟอร์ดทะเลาะเบาะแว้งกับชาวบ้านชาวเมืองอ๊อกซฟอร์ดอย่างรุนแรง จนมีชาวบ้านคนหนึ่งถูกจับแขวนคอตาย คณาจารย์และนักศึกษากลุ่มหนึ่งกลัวความผิดเลยพากันหนีไปที่เมืองเล็ก ๆ ริมฝั่ง แม่น้ำแคม แล้วรวมตัวกันสอนจนเกิดเป็นมหาวิทยาลัยขึ้นมา สถานที่แรกที่มีการเรียนการสอนเกิดขึ้นคือ Peterhouse ซึ่งเป็นวิทยาลัย (college) แรกของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ระบบการเรียนการสอนของเคมบริดจ์จึงคล้ายกับของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด นักศึกษาและครูอาจารย์ของสองมหาวิทยาลัยนี้เรียกรวมๆ ว่า พวก อ๊อกซบริดจ์

cambridge-01.jpg - 83.40 Kb

 King's College Chapel

 

          ต่อมา เคมบริดจ์ได้ขยายตัวและรับนักศึกษาเพิ่มขึ้นจึงมีการจัดตั้งวิทยาลัยเพิ่มขึ้น จนปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ประกอบด้วย 31 วิทยาลัย ระบบวิทยาลัยนี้มีลักษณะคล้ายบ้านของนักเรียนในหนังสือ แฮรี่ พอตเตอร์ คือ พอเข้าอาศัยที่ไหนแล้วก็ไม่เปลี่ยน (ยกเว้นตอนเปลี่ยนระดับการศึกษา อาจขอเปลี่ยนได้) แม้นักเรียนจากแต่ละวิทยาลัยจะเรียนร่วมกันใน คณะ/สาขาต่างๆ, แต่จะมีระบบติว (supervision) แยกจากกัน นักเรียนแต่ละวิทยาลัยจะแข่งขันกัน ทั้งด้านการเรียน และกิจกรรม, ทุกวิทยาลัยจะมีประเพณีของตัวเอง มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ของตัวเอง มีสีและสัญลักษณ์ของตัวเอง และ มีทรัพย์สินอาคารบ้านเรือนของตัวเอง (เช่น สระว่ายน้ำ สนามสควอช ที่ให้เช่าริมฝั่งแม่น้ำ Thame หอศิลป์ โบสถ์ อาคารธุรกิจ หุ้นในประเทศต่าง ๆ ฯลฯ)

 

          ดังนั้น วิทยาลัยของเคมบริดจ์หลาย ๆ แห่ง จึงมีฐานะร่ำรวย และชอบที่จะแข่งขันกันว่าใครจะให้ความสะดวกแก่เด็กตัวเองได้มากกว่ากัน หรือจ้างอาจารย์หรือ Fellow ที่มีชื่อเสียงมาเป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการให้วิทยาลัยของตน อาจารย์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ส่วนใหญ่ก็จะมีวิทยาลัยสังกัด แต่เวลาสอน ก็สอนเด็กทุกวิทยาลัยฐานะทางการเงินของวิทยาลัยนี้จะตรงข้ามกับตัวมหาวิทยาลัย ที่ยังต้องพึ่งพิงรายได้จากรัฐ และค่าเล่าเรียนจากนักเรียน

 

เกียรติภูมิของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

          ภาพ King's College Chapel ใจกลางเมืองเคมบริดจ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เป็นหนึ่งในหลายๆ สถาบันการศึกษาในโลกที่ได้รับการจับตามอง ระหว่างที่ประเทศโลกเสรีพยายามพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อป้องกันประเทศ เมื่อเกิดภัยคุกคามจากเยอรมนี ซึ่งมี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เป็นผู้นำ ระหว่างนี้ มหาวิทยาลัยหลายแห่ง มีการเคลื่อนไหวทางวิชาการอย่างคึกคัก เพราะรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณการวิจัยเป็นจำนวนมหาศาล อาทิเช่น มหาวิทยาลัยปารีส มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด มหาวิทยาลัยมอสโกสเตท มหาวิทยาลัยเบอร์ลิน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยเยล สถาบันเอ็มไอที ฯลฯ มหาวิทยาลัยเหล่านี้จึงแข่งขันกันอยู่ในที บางทีก็มีการดึงเอาคณาจารย์จากกันไปโดยเพิ่มเงินเดือนให้สูงกว่าก็มี

 

KingsCollegeChapelWest-02.jpg - 127.52 Kb

Clare College (left) and King’s College

 

          เมื่อเทียบกับหลายมหาวิทยาลัยในโลก เคมบริดจ์ได้เปรียบทางวิทยาศาสตร์อยู่มาก เพราะรากฐานทางวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนี้เข้มแข็งมาช้านาน ดังนั้น ตั้งแต่อดีตจวบจนยุคปัจจุบัน นอกจากจะได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นเยี่ยมในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของอังกฤษแล้ว ยังเป็นมหาวิทยาลัยลัยที่มีผู้ได้รางวัลโนเบลสูงที่สุดในโลก กล่าวคือมีถึง 80 รางวัล เพราะความมีชื่อเสียงในด้านการวิจัยนี้เอง ในระยะหลัง เคมบริดจ์ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนด้านเงินทุนจากหลายหน่วยงาน เช่น EPSRC และ Gates Foundation ทำให้เคมบริดจ์มีสถานะการเงินที่ดีกว่ามหาวิทยาลัยในอังกฤษอื่นๆ หลายแห่ง

 

          ที่จริงแล้ว มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกที่จัดตั้งสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย แต่บังเอิญว่างานวิจัยส่วนใหญ่เป็นงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ซึ่งสมัยก่อนนั้น ยังไม่มีการนำไปใช้เชิงพาณิชย์เท่าใดนักจึงขยายตัวสู้สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดซึ่งเกิดทีหลัง แต่มีปริมาณงานวิจัยทางสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์มากกว่าไม่ได้ แต่ระยะหลัง สำนักพิมพ์ของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ก็เริ่มพัฒนาขึ้นอย่างมากเห็นได้จากปริมาณงานทางสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ซึ่งมีเพิ่มขึ้น

 

Fitzwilliam-Museum-cambridge-04.jpg - 149.75 Kb

The Fitzwilliam Museum

 

          ในปี พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005) วารสาร The Times Higher Education Supplement ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์มีคะแนนรวมเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยแบ่งเป็น: อันดับ 1 ของยุโรปในคะแนนรวม, เป็นอันดับ 1 ของโลกด้านวิทยาศาสตร์, เป็นอันดับ 6 ของโลกทางด้านเทคโนโลยี, อันดับ 2 ของโลกทางด้านชีวเวช, อันดับ 8 ของโลกด้านสังคมศาสตร์ และ อันดับ 3 ของโลกด้านศิลปศาสตร์และมนุษยศาสตร์

 

          ในปี พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2006) และปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) วารสาร The Times Higher EducationSupplement ได้อันดับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ให้มีคะแนนรวมเป็นอันดับ 2 ของโลกสองปีซ้อนรองจาก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

 

วิทยาลัยในสังกัดมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

  • ไครส์ท คอลเลจ Christ's College, (1505)
  • เชอร์ชิลล์ คอลเลจ Churchill College, (1960)
  • แคลร์ คอลเลจ Clare College, (1326)
  • แคลร์ ฮอลล์ Clare Hall, (1965)
  • คอร์ปัส คริสตี้ คอลเลจ Corpus Christi College, (1352)
  • ดาร์วิน คอลเลจ Darwin College, (1964)
  • ดาว์นิ่ง คอลเลจ Downing College, (1800)
  • เอมมานูเอล คอลเลจ Emmanuel College, (1584)
  • ฟิสวิลเลิ่ยม คอลเลจ Fitzwilliam College, (1966)
  • เกอร์ตั้น คอลเลจ Girton College, (1869)
  • กอนวิลล์ แอนด์ คีย์ส์ คอลเลจ Gonville and Caius College, (1348)
  • โฮเมอตั้น คอลเลจ Homerton College, (1976)
  • ฮิวจ์ส ฮอลล์ Hughes Hall, (1885)
  • จีซัส คอลเลจ Jesus College, (1497)
  • คิงค์ คอลเลจ King's College, (1441)
  • ลูซี่ คาเวนดิช คอลเลจ Lucy Cavendish College, (1965)
  • มอจ์ดลิ่น คอลเลจ Magdalene College, (1428)
  • นิว ฮอลล์ New Hall, 1954 (จะเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการเป็น เมอร์เรย์ เอ็ดเวิร์ดส์ (Murray Edwards College) ใ นวันที่ 1 พฤษภาคม 2009)
  • นิวแน่ม คอลเลจ Newnham College, (1871)
  • เพมโบรค คอลเลจ Pembroke College, (1347)
  • พีเตอร์เฮาร์ท คอลเลจ Peterhouse, (1284)
  • ควีนส คอลเลจ Queens' College, (1448)
  • โรบินสัน คอลเลจ Robinson College, (1979)
  • เซนท์ แคทเธอรีนส์ คอลเลจ St Catharine's College, (1473)
  • เซนท์ เอดมันด์ส คอลเลจ St Edmund's College, (1896)
  • เซนท์ จอห์น คอลเลจ St John's College, (1511)
  • ซิลวิ่น คอลเลจ Selwyn College, (1882)
  • ซิดนี่ ซัสเซกส์ คอลเลจ Sidney Sussex College, (1596)
  • ทรินิที้ คอลเลจ Trinity College, (1546)
  • ทรินิที้ ฮอลล์ Trinity Hall, (1350)
  • วูลฟ์สัน คอลเลจ Wolfson College, (1965)

 

          ในจำนวนวิทยาลัยทั้งหมดนี้ มี 3 วิทยาลัยที่รับเฉพาะนักศึกษาหญิงเท่านั้น (นิวแน่ม คอลเลจ, ลูซี่ คาเวนดิช คอลเลจ, และ นิว ฮอลล์) และ 4 วิทยาลัยที่รับเฉพาะนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา (แคลร์ ฮอลล์, ดาร์วิน คอลเลจ, วูลฟ์สัน คอลเลจ, และ เซนท์ เอดมันด์ส คอลเลจ)

 

 

 


Source :
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

            : http://en.wikipedia.org/wiki/Cambridge_University

 

...............................................................

 

 

 

 

 

 

จำนวนผู้เยี่ยมชม

mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterวันนี้327
mod_vvisit_counterเมื่อวานนี้800
mod_vvisit_counterเดือนนี้327
mod_vvisit_counterผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด6822903

Who's Online

เรามี 43 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

รวมบทความ